การจัดฟัน มีกี่ประเภท แบบไหนตอบโจทย์คุณที่สุด

Orthodontics หรือ การดัดฟัน ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากที่หลายคนอาจมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฟันซ้อนเก การสบฟันที่ปิดปกติ หรือแม้แต่อาการปวดกราม จากการที่มีฟันสบผิดตำแหน่ง ในบทความนี้ ทาง dentalclinicpattaya.org เราจะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของการจัดฟัน วิธีเลือกจัดฟันให้เหมาะกับตัวเอง ค่าใช้จ่ายที่ควรรู้เบื้องต้น เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจขึ้น

การจัดฟันคืออะไร?

การจัดฟัน คือ กระบวนการทางทันตกรรมโดยใช้เครื่องมือจัดฟันปรับการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ ปรับมาเรียงตัวเพื่อให้การบดเคี้ยว อาหาร หรือความสวยงามมากขึ้น การดัดฟันช่วยแก้ปัญหา การสบฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง หรือฟันยื่น ซึ่งไม่เพียงทำให้รอยยิ้มดูสวยงามและมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อฟันผุ และโรคเหงือกในระยะยาวอีกด้วย

ทำไมต้องจัดฟัน?

• แก้ปัญหาการสบฟันผิดปกติ เช่น ฟันยื่น ฟันซ้อน ฟันเก
• ช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ลดปัญหาอาการปวดกราม หรือ ข้อต่อขากรรไกร
• ลดความเสี่ยงฟันผุ เพราะฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบง่ายต่อการทำความสะอาด
• จัดฟันร่วมกับผ่าตัดขารรไกร ช่วยลดความเสี่ยงของ โรคข้อต่อขากรรไกร (TMJ Disorder)  Information from: โรงพยาบาลนครธน
• เพิ่มความมั่นใจในการยิ้มและพูดคุย

การจัดฟัน มีกี่ประเภท?

การดัดฟันนั้นในปัจจุบันมี 5 ประเภทด้วยกันดังนี้

1. จัดฟันแบบโลหะ
2. จัดฟันแบบเซรามิก
3. จัดฟันแบบใส
4. จัดฟันแบบดามอน
5. จัดฟันแบบด้านใน

เปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย การจัดฟันแต่ละประเภท

ประเภทการจัดฟัน	ข้อดี	ข้อเสีย
จัดฟันแบบโลหะ	ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดแก้ปัญหาการสบฟันที่ซับซ้อนได้ดีเปลี่ยนยางสีได้ สนุกกับการจัดฟัน	มองเห็นเครื่องมือชัดเจนอาจรู้สึกระคายเคืองกระพุ้งแก้มต้องมาพบหมอเพื่อปรับเครื่องมือบ่อย
จัดฟันแบบเซรามิก	สีใสกลมกลืนกับฟันประสิทธิภาพใกล้เคียงกับจัดฟันโลหะเหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องความสวยงาม	ราคาสูงกว่าจัดฟันโลหะวัสดุเปราะกว่า อาจแตกหักง่ายกว่าสีเซรามิกอาจเปลี่ยนเมื่อสัมผัสอาหารบางชนิด
จัดฟันใส	ถอดเข้า-ออกได้ สะดวกในการกินและทำความสะอาดแทบมองไม่เห็นเครื่องมือไม่ระคายเคืองช่องปาก	ราคาสูงที่สุดในบรรดาประเภทจัดฟันต้องมีวินัยใส่เครื่องมือวันละ 20-22 ชั่วโมงไม่เหมาะกับเคสที่ซับซ้อนมาก
จัดฟันแบบดามอน	เจ็บน้อยกว่าเครื่องมือจัดฟันทั่วไปใช้เวลาในการจัดฟันน้อยกว่ามาพบคุณหมอน้อยลง	ราคาสูงกว่าจัดฟันโลหะมีตัวเลือกสีจำกัดยังเห็นเครื่องมืออยู่ แต่ชัดน้อยกว่าโลหะทั่วไป
จัดฟันแบบด้านใน	ติดเครื่องมือด้านหลังฟัน มองไม่เห็นจากภายนอกเหมาะกับคนที่ต้องการความเนียน	ราคาสูงมากทำความสะอาดยากกว่าประเภทอื่นอาจรู้สึกไม่สบายลิ้นในช่วงแรก

การจัดฟัน เหมาะกับใคร?

• คนที่มี ฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง
• คนที่มีปัญหา การสบฟันไม่ถูกต้อง
• คนที่ต้องการ ปรับรอยยิ้มให้มั่นใจมากขึ้น

ลักษณะฟันและนิสัยที่ไม่ควรจัดฟัน

แม้ว่าการจัดฟันจะช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและปรับการสบฟันให้ดีขึ้น แต่ก็มีบางกรณีที่ ไม่ควรจัดฟัน หรือ ควรปรึกษาทันตแพทย์อย่างละเอียด ก่อนเริ่มกระบวนการจัดฟัน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

1. มีปัญหาโรคเหงือกขั้นรุนแรง
2. รากฟันสั้นผิดปกติ
3. มีโรคทางระบบที่ส่งผลต่อกระดูก
4. เคยผ่านการรักษารากฟันจำนวนมาก
5. ไม่รักษาสุขอนามัยช่องปากได้อย่างเหมาะสม
6. เด็กที่มีฟันน้ำนมอยู่มาก
7. มีการสูญเสียฟันหลายซี่
8. มีพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อฟัน
9. สูบบุหรี่จัด
10. มีความผิดปกติของขากรรไกรที่รุนแรง

บทความที่เกี่ยวข้อง: 10 ลักษณะฟันที่ไม่ควรจัด สุ่มเสี่ยงเจอปัญหาฟันตามมามากกว่าที่คุณคิด

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน ขึ้นอยู่กับประเภท และขั้นตอนการรักษาที่ต้องทำทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดัดฟัน โดยจะสามารถแบ่งค่าใช้จ่ายได้ดังนี้ 

การเตรียมช่องปากก่อนจัดฟัน เช่น การตรวจสุขภาพฟัน การเอ็กซเรย์ การพิมพ์ฟัน การเคลียร์ช่องปาก (ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน หรือผ่าฟันคุด) ซึ่งขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล

ขั้นตอนการติดเครื่องมือจัดฟัน ค่าใช้จ่ายจะต่างกันตามประเภท เช่น จัดฟันโลหะเริ่มต้นประมาณ 35,000 – 60,000 บาท จัดฟันใสราคา 80,000 – 150,000 บาท และจัดฟันดามอนประมาณ 60,000 – 100,000 บาท โดยสามารถผ่อนชำระรายเดือนตามแผนของคลินิก

หลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว จะมีขั้นตอน การใส่รีเทนเนอร์ เพื่อคงตำแหน่งฟันไม่ให้เคลื่อน ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 3,000 – 5,000 บาทต่อคู่ ขึ้นอยู่กับประเภทของรีเทนเนอร์ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการประมาณค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ซึ่งอาจแตกต่างไปตามความซับซ้อนของเคสและประเภทของเครื่องมือที่เลือกใช้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดฟัน (FAQ)