คู่มือ! จัดฟันครั้งแรกกี่บาท เจ็บไหม ใส่ยางสีอะไรดี?

จัดฟันครั้งแรก ไม่ใช่แค่การเรียงฟันให้สวย แต่ยังส่งผลต่อการบดเคี้ยว โครงหน้า และสุขภาพช่องปากในระยะยาว หลายคนอาจกังวลว่า เริ่มต้นจัดฟันในครั้งแรกเจ็บไหม? ราคาเท่าไหร่? ต้องเตรียมตัวยังไง? รวมถึงเลือก ยางจัดฟันสีอะไรดี? ความจริงแล้ว การจัดฟันเป็นมากกว่าความสวยงาม เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาฟันซ้อนเก ฟันห่าง หรือการสบฟันผิดปกติได้ หากกำลังวางแผนOrthodontics บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมตัว ค่าใช้จ่าย และเทคนิคเลือกสีให้เข้ากับสไตล์ อ่านจบแล้วมั่นใจ

จัดฟันครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร

การเตรียมตัวก่อนจัดฟันเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยให้การจัดฟันเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น ฟันเคลื่อนผิดตำแหน่ง หรือเกิดอาการอักเสบจากฟันคุดที่ไม่ได้รับการดูแล หลายคนอาจไม่รู้ว่าก่อนติดเครื่องมือจัดฟัน จำเป็นต้องตรวจสุขภาพช่องปาก ขูดหินปูน อุดฟัน หรือแม้แต่ถอนฟัน เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนฟันได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ X-ray และการพิมพ์ฟัน เป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะการตรวจดูว่ามี ฟันคุด ฟันซ้อน หรือปัญหาขากรรไกรหรือไม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อผลลัพธ์ของการจัดฟันในระยะยาว

หากสงสัยว่าก่อนจัดฟัน ต้องทำอะไรบ้าง? ควรเริ่มจาก 7 ข้อต้องรู้ก่อนจัดฟัน เพื่อเข้าใจขั้นตอนการเตรียมตัว และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจทำให้การจัดฟันใช้เวลานานขึ้นกว่าที่ควร

ติดเครื่องมือจัดฟันครั้งแรก เจ็บไหม?

การจัดฟันในครั้งแรกช่วง 3-7 วันแรกหลังติดเครื่องมือจัดฟัน อาจรู้สึกตึงและปวดฟันเล็กน้อย เพราะลวดและยางจัดฟันเริ่มออกแรงดึงเพื่อปรับตำแหน่งของฟัน บางคนอาจมีอาการระคายเคืองที่ริมฝีปากและกระพุ้งแก้มจากการเสียดสีของแบร็กเก็ต อาการเจ็บมักจะลดลงเองเมื่อฟันเริ่มชินกับแรงดึงของเครื่องมือ

อาการที่พบบ่อยในช่วงแรก

• รู้สึกฟันตึงหรือปวดหนึบ ๆ เวลากัดหรือเคี้ยวอาหาร
• เหงือกอาจมีอาการบวมเล็กน้อยจากแรงกดของเครื่องมือ
• ริมฝีปากและกระพุ้งแก้มอาจระคายเคืองจากแบร็กเก็ต

วิธีบรรเทาอาการเจ็บจากการจัดฟัน

แม้อาการเจ็บจากการจัดฟันจะเป็นเรื่องปกติ แต่สามารถบรรเทาอาการได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. ใช้ขี้ผึ้งจัดฟัน – หากรู้สึกว่าเครื่องมือเสียดสีกับกระพุ้งแก้มหรือริมฝีปากจนเป็นแผล สามารถใช้ขี้ผึ้งจัดฟันปิดบริเวณที่ระคายเคืองเพื่อลดการเสียดสี
2. ทานอาหารอ่อน ๆ – เลี่ยงอาหารแข็งหรือเหนียว เช่น ขนมปังแข็ง ลูกอม หรือหมากฝรั่ง ควรเลือกทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ซุป หรือโยเกิร์ตในช่วง 2-3 วันแรก
3. ใช้ยาแก้ปวดหากจำเป็น – หากอาการเจ็บรบกวนชีวิตประจำวัน สามารถใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟนได้ แต่ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
4. ดื่มน้ำเย็นหรือประคบเย็น – การดื่มน้ำเย็น หรือประคบเย็นที่แก้มช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการเจ็บได้

ส่วนใหญ่แล้ว ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ในการปรับตัวกับเครื่องมือจัดฟัน ช่วงแรกอาจรู้สึกตึงและไม่สบายช่องปาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฟันจะค่อย ๆ ปรับตัว และอาการเจ็บจะลดลงเอง

อาการเจ็บจากการจัดฟันครั้งแรกเป็นเพียงระยะเริ่มต้น เมื่อผ่านไปสักระยะ ร่างกายจะคุ้นชิน และคุณจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมรอผลลัพธ์เป็นฟันที่เรียงตัวสวยและรอยยิ้มที่มั่นใจมากขึ้น!

ขั้นตอนการจัดฟัน

1. ตรวจสุขภาพฟัน วางแผน และ X-ray
2. ติดเครื่องมือจัดฟัน ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
3. ปรับเครื่องมือทุกเดือนเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ตามแผน
4. ถอดเครื่องมือ และใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟัน

จัดฟันครั้งแรกกี่บาท

ค่าใช้จ่ายพื้นฐานของการจัดฟันขึ้นอยู่กับ ประเภทของเครื่องมือจัดฟัน ที่เลือก ซึ่งแต่ละแบบมีราคาต่างกัน และ ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าปรึกษา ค่าเครียร์ช่องปาก รวมถึงรีเทนเนอร์

ค่าเครื่องมือจัดฟัน

• จัดฟันโลหะ (Metal Braces) – เป็นประเภทที่นิยมที่สุด ราคาไม่สูงมาก เริ่มต้นที่ 40,000 – 60,000 บาท
• จัดฟันดามอน (Damon Braces) – ใช้แบร็กเก็ตแบบไม่ต้องใช้ยางรัด ลดแรงเสียดทานและเจ็บน้อยกว่า ราคาประมาณ 70,000 – 90,000 บาท
• จัดฟันใส Invisalign (Clear Aligners) – ไม่มีเหล็กหรือยางให้เห็น เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการความสวยงาม ราคาประมาณ 90,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับความซับซ้อนของฟัน
• จัดฟันเซรามิก (Ceramic Braces) – เหมือนจัดฟันโลหะแต่ใช้วัสดุเซรามิกใส มองเห็นได้น้อยกว่า ราคาเริ่มต้นที่ 60,000 – 80,000 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

นอกจากค่าเครื่องมือจัดฟันแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจต้องเตรียมตัวล่วงหน้า ได้แก่

• ค่าปรึกษาและตรวจสุขภาพฟัน – ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับการตรวจฟันก่อนจัดฟัน มักอยู่ที่ 400 – 1,000 บาท
• ค่าพิมพ์ฟันและ X-ray – ขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการรักษา ค่าพิมพ์ฟันและ X-ray อยู่ที่ประมาณ 800 – 3,000 บาท
• ค่าเคลียร์ช่องปาก – ขูดหินปูน อุดฟัน หรือถอนฟัน (ถ้าจำเป็น) ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 – 2,500 บาท สำหรับขูดหินปูน และ 1,000 – 2,500 บาท/ซี่ สำหรับถอนฟัน
• ค่าปรับเครื่องมือรายเดือน – โดยปกติจะต้องพบทันตแพทย์ทุก 4-6 สัปดาห์ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,000 – 2,000 บาทต่อครั้ง
• ค่ารีเทนเนอร์หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน – เมื่อจัดฟันเสร็จแล้ว ต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,500 – 8,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของรีเทนเนอร์

จัดฟันครั้งแรกใส่สีอะไรดี

การเลือก สียางจัดฟัน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสนุกของการจัดฟัน เพราะสามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบในทุกครั้งที่ไปปรับเครื่องมือ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ควรเลือกสีอะไรดีในการจัดฟันครั้งแรก? สีไหนช่วยให้ฟันดูขาว? สีไหนเข้ากับบุคลิกและสไตล์ของตัวเอง? หรือมีสีไหนที่ควรหลีกเลี่ยง? มาดูกันเลย!

สียางจัดฟันตามบุคลิกและสีผิว

• สีอ่อน – เช่น ฟ้าอ่อน ม่วงพาสเทล หรือชมพูอ่อน ช่วยให้ฟันดูขาวขึ้น เพราะสีอ่อนจะตัดกับสีฟัน ทำให้ดูสะอาดสดใส
• สีเข้ม – เช่น น้ำเงินเข้ม ม่วงเข้ม ดำ หรือแดงเบอร์กันดี ช่วยให้รอยยิ้มดูโดดเด่น และทำให้สีฟันดูขาวขึ้นกว่าสีที่อ่อนมากเกินไป
• สีใสหรือขาว – อาจดูเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจทำให้ดูหมองหรือมีคราบติดได้ง่าย
• สีที่ตัดกับสีผิว – คนที่มีผิวขาวอาจเลือกสีสดใสได้ทุกเฉด ส่วนคนที่มีผิวสองสีหรือเข้ม อาจเหมาะกับโทนสีเข้มหรือพาสเทลที่ช่วยขับผิว

สีไหนฮิตและเหมาะกับสไตล์แต่ละคน?

• สีพาสเทล (ชมพูพาสเทล, ม่วงลาเวนเดอร์, ฟ้าอ่อน) – เหมาะกับคนที่ชอบลุคน่ารัก หวาน ๆ สดใส
• สีน้ำเงินเข้ม ม่วงเข้ม หรือแดงเบอร์กันดี – เหมาะกับคนที่ต้องการให้ฟันดูขาวขึ้น และดูเป็นมืออาชีพ
• สีสดใส (เขียวมะนาว, เหลือง, ส้ม, แดงสด, ฟ้านีออน) – สำหรับคนที่ชอบสไตล์สนุกสนาน ชอบให้รอยยิ้มดูโดดเด่น
• สีรุ้งหรือแบบไล่สี (Gradient Color) – เป็นเทรนด์ยอดนิยมที่ช่วยให้รอยยิ้มดูมีลูกเล่นมากขึ้น

การจัดฟันครั้งแรก เป็นกระบวนการที่ต้องมีการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การตรวจสุขภาพช่องปาก X-ray พิมพ์ฟัน และเคลียร์ช่องปากเพื่อให้การจัดฟันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องมือจัดฟัน โดย จัดฟันโลหะเริ่มต้นที่ 40,000 – 60,000 บาท และ จัดฟันใส Invisalign ราคา 89,000 – 180,000 บาท หลังติดเครื่องมือ อาจมีอาการเจ็บช่วง 3-7 วันแรก แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการทานอาหารอ่อน ประคบเย็น และใช้ขี้ผึ้งกันเสียดสี โดยทั่วไปฟันจะปรับตัวภายใน 1-2 สัปดาห์ 

ส่วนการเลือก สียางจัดฟัน ควรเลือกให้เข้ากับบุคลิกและช่วยเสริมรอยยิ้ม เช่น สีเข้มช่วยให้ฟันดูขาวขึ้น สีพาสเทลให้ลุคน่ารัก แต่ควรหลีกเลี่ยงสีที่ทำให้ฟันดูเหลือง เช่น สีเขียวอ่อนและสีใส การวางแผนที่ดีช่วยให้การจัดฟันราบรื่น ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และสุขภาพฟันที่แข็งแรงในระยะยาว